เงินดิจิทัล

รัฐบาลลุยไฟแจกเงินดิจิทัล

นี่คือสิ่งที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้แล้วสำหรับการตอบสนองของคณะกรรมการกฤษฎีกา ในกรณีที่รัฐบาลขอให้ออกกฎหมายให้กู้ยืมโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล คนละ 10,000 บาท ถือเป็นการตอบสนองตามหลักกฎหมาย ไม่ได้สนับสนุนหรือคัดค้าน ผมแค่ให้คำแนะนำ 

หากรัฐบาลยืมเงินมาทำโครงการนี้ ฉันควรทำอย่างไรดี? และกฎหมายมีข้อห้ามอะไรบ้าง?

นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการ ครม. เปิดเผยว่า ครม. ได้ส่งคำตอบเกี่ยวกับการออกร่าง พ.ร.บ. กู้ยืมเงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับภาครัฐแล้ว รายละเอียดจะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล พระราชกฤษฎีกาตอบคำถามทางกฎหมายโดยอธิบายมาตรา 53 ของกฎหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐ เงื่อนไขมีอยู่ว่า นี่เป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างถาวร เพื่อแก้ไขวิกฤติของประเทศหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาดูว่าเป็นไปตามเงื่อนไขเหล่านี้หรือไม่

นักข่าวถามว่ารัฐบาลสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ นายปกรณ์ตอบว่า สามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ เพราะเรายึดถือมาตรา 53, มาตรา 6, มาตรา 7 และมาตรา 9 และตอบตรงประเด็นนั้น หากปฏิบัติตามพระราชกำหนด ปลอดภัยอย่างแน่นอน เมื่อถูกถามว่าประกาศเข้าภาวะวิกฤติหรือไม่ แต่ถ้านำมาเป็นกฎหมายจะขัดแย้งหรือไม่? เลขาธิการตอบว่า : ไม่มีอะไร. พระราชบัญญัติวินัยทางการเงินของรัฐระบุไว้เพียงว่าอาจได้รับเงินกู้ผ่านกฎหมายเท่านั้น ต่อไปนี้กฎหมายจะประกอบด้วยทั้งกฎหมายและพระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกาเป็นเหตุแต่เป็นพระราชกฤษฎีกาที่กระทำได้ 3 ครั้งติดต่อกันและได้กระทำไปแล้ว มันไม่ใช่เรื่องยาก

จนถึงทุกวันนี้รัฐบาลยังไม่สามารถอธิบายให้สังคมเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าสถานการณ์ในประเทศไทยถือเป็นภาวะวิกฤติเร่งด่วน ใครควรกู้ยืมเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และผลลัพธ์จะคุ้มกับเงินกู้ 5 แสนล้านบาทหรือไม่?

เราขอขอบคุณบทความจาก  รัฐบาลลุยไฟแจกเงินดิจิทัล